[title heading=”4″ align=”left”]การปลูกอ้อย[/title]
การปลูกอ้อยปัจจุบันนี้ มักจะพบปัญหามาก คือการปลูกอ้อยในพื้นที่ดินเสื่อมสภาพ ทำให้ การปลูกแล้วหน่ออ้อยขึ้นน้อยจึงทำให้ลำอ้อยน้อยไปด้วยทำให้เกษตรกรขาดทุน หรือไม่คุ้มค่ากับการลงทุน หรือบางพื้นที่ต้องไถทิ้งแล้วปลูกใหม่ ทางบริษัท เอสพีฟาร์ม กาฬสินธุ์ จำกัด โดยปุ๋ยตราปลานิลทองและปุ๋ยตรานกอินทรีย์แดงคู่เหยียบโลก ได้ตระหนักดีว่า พื้นดินในการทำเกษตรได้ใช้ติดต่อกันมาหลายช่วงอายุคนแล้ว จึงทำให้ดินขาดธาตุอาหารต่างๆ บริษัท เอสพีฟาร์ม กาฬสินธุ์ จำกัด ได้ผลิตปุ๋ยที่มีธาตุอาหารพื้นสมบูรณ์นั้น คือ ปุ๋ยตราปลานิลทองและปุ๋ยตรานกอินทรีย์แดงคู่เหยียบโลก ซึ่งเป็นปุ๋ย เคมีและอินทรีย์ ในเม็ดเดียวกัน สะดวกในการนำไปใช้ ช่วยปรับปรุงบำรุงดิน และให้ผลผลิตสูงขึ้น
การปลูกอ้อยให้ได้ผลผลิต 20 ตันต่อไร่
- ไถเตรียมดินโดยใช้ไถผาน 3 เพื่อให้ดินโปร่งขึ้นและรากอ้อยสามารถหาอาหารได้ลึกขึ้น ไถรอบที่ 2 โดยใช้ไถผาน 7 เพื่อย่อยดินให้เป็นก้อนเล็กลง หลังจากนั้นแล้วใช้คราดเพื่อให้ดินย่อยละเอียดขึ้นดังรูป
- การไถยกร่องเพื่อทิ้งท่อนพันธุ์ ให้เกษตรกรใส่ปุ๋ยปลานิลทองหรือปุ๋ยนกอินทรีย์แดงคู่เหยียบโลก รองพื้นลงไปพร้อมกับท่อนพันธุ์ หรือถ้าเกษตรกรที่ใช้รถแท็คเตอร์ในการปลูกอ้อย ก็สามารถใช้ปุ๋ยตราปลานิลทองหรือปุ๋ยตรานกอินทรีย์แดงคู่ไปพร้อมกันได้เลย เพราะเราต้องการให้อ้อยได้รับอาหารทันทีแทงรากออกมาจึงจะทำให้มีหน่อได้เยอะ เพราะว่าปุ๋ยตราปลานิลทองและปุ๋ยตรานกอินทรีย์แดงคู่เหยียบโลกมีธาตุอาหาร ที่ใช้ในการกระตุ้นการออกรากและกระตุ้นการแตกหน่อได้ดี ดังรูป
- รอให้หน่ออ้อยแทงหน่อขึ้นมาสูงประมาณ 30-40 เซนติเมตร ทำการกำจัดวัชพื้นแล้วทำการใส่ปุ๋ย ครั้งที่ 2 โดยใช้อัตรา 50-100 กิโลกรัม ต่อไร่ ถ้าเป็นอ้อยตอแรก ก็รอเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เลยแต่ในกรณีที่อ้อยตอ 2 หรือตอ 3 ก็จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยครั้งที่ 3 อีกครั้ง จึงจะทำให้ได้ผลผลิต 20 ตันต่อไร่ ดังรูป